‘ล่ามสนามหลวง’ ทำดีเพื่อพ่อ

     ฐิตาภา สิริพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี แกนนำหลักของกลุ่มจิตอาสา ล่ามสนามหลวงเล่าผ่านไทยรัฐออนไลน์ให้ฟังว่า ปิ๊งได้ไปทำข่าววันแรกที่พระบรมมหาราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปชมวัดพระแก้วค่ะ การไปอยู่ตรงนั้นทั้งวัน ได้เห็นหลายปัญหา ทั้งนักท่องเที่ยวหลงทาง ชาวต่างชาติหลงเข้าไปที่สนามหลวงแล้วหาทางออกไปพระบรมมหาราชวังไม่เจอ / เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ หรือ แม้แต่หลายคนก็ไม่เข้าใจว่าที่สนามหลวงเกิดอะไรขึ้น การเห็นปัญหาตรงนั้นจึงทำให้ปิ๊งชวนเพื่อนลงพื้นที่ไปเป็นล่ามอาสา พอคุยไปคุยมาเลยตัดสินใจชวนคนอื่นๆ มาด้วย เพราะพวกเราเองได้ไม่เกิน 3 ภาษา ถ้ามีคนที่ได้ภาษาอื่นๆ คงจะดี

ปัจจุบัน กลุ่มล่ามสนามหลวง มีสมาชิกเกือบ 100 คน มีล่ามอาสาที่สามารถพูดได้หลายภาษา ทั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน เยอรมัน อิตาเลียน เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลย์ สเปน และ สวิส โดยล่ามเด็กสุดในกลุ่มเรียนมัธยมต้น ส่วนล่ามอายุมากสุดอายุ 65 ปี โดยกลุ่มล่ามสนามหลวงไม่ได้ลงพื้นที่ทุกวันเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา และ ทำงาน

     “หลักๆ พวกเราจะลงพื้นที่เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงที่มีกิจกรรมใหญ่ๆ รอบสนามหลวงและพื้นที่ใกล้ๆ เคียง ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากนี้จะเตรียมลงพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ปวงชนชาวไทยไหลเข้าท้องสนามหลวงหนาแน่นกว่าทุกๆ วันและนักท่องเที่ยว อาจสับสนเรื่องเส้นทางการเข้าออก นอกจากการให้ข้อมูลแล้ว หลายครั้งๆ ล่ามอาสายังได้ช่วยนักท่องเที่ยวที่พลัดหลง พากลับไปหาเพื่อนและกรุ๊ปทัวร์ เบาแรงพี่ๆ ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ในช่วงที่สนามหลวงค่อนข้างหนาแน่น”
     นอกจากล่ามอาสาแล้ว ยังมีสตาฟฟ์ที่คอยดูแลน้องๆ อีก 6 คน ที่ทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ให้ลงพื้นที่อย่างปลอดภัยและจัดหาข้อมูลที่ครบถ้วนให้กับล่ามอาสาแต่ละคน โดยสมาชิกล่ามอาสา ของกลุ่มล่ามสนามหลวงจะต้องได้รับการบรีฟข้อมูลก่อนลงพื้นที่ทุกครั้ง และมีการอบรมสั้นๆเรื่องการลงพื้นที่ทุกครั้ง และมีการอบรมสั้นๆเรื่องการลงพื้นที่จากพี่สตาฟฟ์ และเจ้าหน้าที่จากกรมการท่องเที่ยวที่เข้ามาแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องให้ด้วย

     “งานอาสาตรงนี้อยู่บนพื้นฐานความพอเพียง เราไม่ได้ลงทุนอะไรในรูปแบบตัวเงิน ทุกคนนำความสามารถของตัวเองมาช่วยคนอื่น และเสียสละเวลามากัน ปิ๊งจะขอบคุณน้องๆ อาสาเสมอว่าขอบคุณมาก เพราะ ทุกคนทำหน้าที่ทูตตัวน้อยรอบวังได้ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่ข้อมูลที่เราช่วยเหลือ เราให้รอยยิ้ม ให้ความนอบน้อมอย่างไทย และให้มิตรภาพกลับไปด้วย ทุกอย่างเราให้นักท่องเที่ยวฟรีหมด โดยแค่หวังเล็กๆ ว่าเขาจะรักประเทศไทย และกลับมาเที่ยวอีก ทั้งหมดเพื่อประเทศของเรา”

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/791587